นางกวักนะร่ำไร่ (ขนาดบูชา, ไม้เทพทาโร) Nang Kwak Na Ram Rai (altar size, Safrol Laurel Wood)
การสร้างนางกวักนะร่ำไร่ รุ่นนี้ อาจารย์นิวได้เลือกนำ "ไม้มะขามตายพราย" มาแกะเป็นองค์แม่นางกวัก ซึ่งไม้มะขามตายพรายเป็นของอาถรรพ์มีดีในตัว ธรรมชาติสร้างมาให้ขลัง ถือเป็นมวลสารชั้นเลิศ เชื่อถือกันมาแต่โบราณ มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก เหมาะยิ่งนักในการนำมาแกะเป็นวัตถุมงคล อาศัยอำนาจแห่งนามของมะขาม คือ ขาม คร้าม เกรง
สูง 6.5 นิ้ว x ฐานกว้าง 4 นิ้ว
For the creation of this version of Nang Kwak Na Ram Rai, Arjarn New has chosen "Perennial Death Tamarind Wood" to carve into the image of Mae Nang Kwak, which "Perennial Death Tamarind Wood" is a mystical item that has natural power itself. Nature created it to be magical, regarded as an excellent material for making amulets. Since ancient times, people have believed that this Perennial Death Tamarind Wood is the powerful mystical item. It is very suitable to be carved into a amulet by virtue of the thai name of the tamarind tree meaning fear, obey, and respect.
Height 6.5 inches x base Width 4inches
นางกวักนะร่ำไร่ (ขนาดบูชา, ไม้เทพทาโร) Nang Kwak Na Ram Rai altar size
นางกวักนะร่ำไร่ (ขนาดบูชา,ไม้เทพทาโร), อาจารย์นิว อกุนิวงศ์, ตำหนักปู่ฤๅษีพรหมมา, จ.นนทบุรี
"ขอท่านจงได้รับพรดั่งนางกวักได้รับจากพระสีวลี
ชายเห็นชายรัก หญิงเห็นหญิงทัก กำไรมาโดยคล่อง
เงินทองล้นเต็มห้อง ข้าวของมากเต็มเรือน
3วันเป็นผู้โชคดี 3เดือนเป็นเศรษฐี 3ปีเป็นคหบดี ชีวีสุขีมั่งมีอุดม"
การสร้างนางกวักนะร่ำไร่ รุ่นนี้ อาจารย์นิวได้เลือกนำ “ไม้เทพทาโร”มาแกะเป็นองค์แม่นางกวัก ไม้เทพทาโรเป็นไม้หอมมงคลที่ถูกกล่าวถึงตั้งแต่โบราณกาล เป็นไม้พื้นบ้านของภาคใต้ เชื่อถือกันว่าที่ไหนมีไม้เทพทาโรจะร่มเย็นเป็นสุข คุณลักษณะพิเศษของไม้ชนิดนี้คือ มีกลิ่นหอมรัญจวน มีมนต์เสน่ห์ในตัวจนแม้แต่เทพเทวดายังต้องหลงใหล
อาจารย์นิวท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเวลาครูบาอาจารย์ท่านจะทำพิธีบวงสรวงเทพเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็นิยมนำเอาไม้เทพทาโรนี้มาบูชาไฟ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอมล่องลอยไปนำพาเทพเทวดาให้ลงมาประสิทธิ์ประสาทพรในปรัมพิธี ซึ่งคำว่า “เทพทาโร” ยังมีนัยยะหมายถึง เทพเทวดาเฮโลเกลื่อนกล่นกันมาเสพไอสูดดมกลิ่นหอมของไม้ชนิดนี้ ไม้เทพทาโรจึงเป็นไม้ที่มีคุณวิเศษในตัวเอง เป็นกายสิทธิ์ที่ให้คุณทางเสน่ห์เมตตาดึงดูดมหาชนรวมไปถึงเทพเทวดาทั้งหลาย
เมื่อนำมาแกะเป็นนางกวัก ก็ย่อมส่งผลให้นางกวักนั้นมีอิทธิฤทธิ์เอกอุในทางปกปักรักษาคุ้มครองเจ้าให้ร่มเย็นเป็นสุข และช่วยกวักเงินทองข้าวของผู้คนให้เข้าหาไม่ขาดสาย
โดยวิชาสำคัญที่อาจารย์นิวนำมาเสกนั้นคือวิชา "นะร่ำไร่" ตำรับ"หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง" โดยบทคาถาตอนหนึ่งมีความว่า "นะร่ำไร รักใคร่ถามหา โมละลวยช่วยพามา พุทถามหา ธาร้องทัก ยะกวักมือ" ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นวิชาที่เหมาะแก่การนำมาสร้างเสกนางกวักยิ่งนัก วิชานะร่ำไร่มีพุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตา ดึงดูดโชคลาภ และดลจิตใจคนให้คิดถึงคนึงหา
อาจารย์นิวได้จารอักขระเลขยันต์ ทั่วทั้งองค์แม่นางกวัก ด้วยสรรพวิชาทางมหาลาภ เสน่ห์เมตตา เจริญรุ่งเรืองที่ท่านมั่นใจ ใช้จนชำนาญ และมากด้วยประสบการณ์ สำเร็จเป็นสุดยอดวัตถุมงคลทางโภคทรัพย์ มีพุทธคุณทางด้านกวักโชคกวักลาภเป็นเลิศ เป็นเสน่ห์ โชคลาภ ช่วยเรียกเงิน เรียกทองหลั่งไหลมากอง อีกทั้งยังสามารถแก้เคล็ด สำหรับผู้ที่เก็บเงินไม่อยู่ หรือไม่สามารถเก็บได้ จะช่วยให้มีเงิน มีทองพอกพูน พกไว้ติดตัวหรือบูชาที่บ้านเรือนย่อมเป็นมหาโภคทรัพย์ บังเกิดความอุดมสมบูรณ์ ความกินดีอยู่ดี บูชาดีได้เป็นมหาเศรษฐีกินอยู่สบาย อธิษฐานให้ช่วยเรียกเงินไหลนอง เรียกทองไหลมา ค้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเป็นเสน่ห์เมตตาเจรจาค้าขาย ให้บุคคลรอบข้างเอ็นดู เจ้านายรักเมตตาเอ็นดู การงานผ่านฉลุย คอยเฝ้าบ้านระวังภัยต่างๆนานานับประการแล้วแต่จะอธิษฐานแล
โดยอ้างอิงตามชีวประวัติของพระสีวลีเถระตอนหนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ในพระไตรปิฏกที่ "นางสุภาวดี(นางกวัก)" ได้รับการประสิทธิ์พรจากพระสีวลี ได้กลายเป็นอภิมหาสตรีเศรษฐีที่ร่ำรวยมั่งคั่งที่สุดในยุคนั้น ว่ากันว่าปริมาณทรัพย์สินของนางมีมากมายมหาศาล เทียบได้กับมหาเศรษฐีในตำนานอย่าง "ธนัญชัยเศรษฐี" บิดาของนางวิสาขามหาอุบาสิกาแห่งแคว้นโกศลในยุคนั้นเลยทีเดียว
พระสีวลีได้ให้พรนางสุภาวดีว่า "จงเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สินเงินทองจากการค้าขาย เงินทองไหลมาเทมา สมความมุ่งมาดปรารถนาด้วยเถิด” ซึ่งหลังจากที่นางสุภาวดีได้รับพร ก็เป็นประหนึ่งผู้วิเศษ เพราะไม่ว่านางจะอยู่ที่ใด ที่แห่งนั้นจะเต็มไปด้วยผู้คน เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซื้อมาขายไปอย่างน่าประหลาด ถึงขนาดเหล่าพ่อค้าวานิชในสมัยนั้นต่างต้องขนนำเอาสินค้าของตน มาขอร่วมขบวนกองเกวียนสินค้าของนางสุภาวดีและบิดา เพราะมีเท่าไหร่ก็ขายหมดไม่มีเหลือติดเกวียน
ความศักดิ์สิทธิ์แห่งพรอันประเสริฐ ที่นางสุภาวดีได้รับจากพระสีวลีนั้น ยากนักจะอุปมา แม้เป็นเพียงรูปลักษณ์ตัวแทนนางสุภาวดี ที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า "นางกวัก" ก็ยังได้รับอานิสงค์แห่งพรวิเศษเฉกเช่น 2,500 ปีก่อน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน "นางกวัก" จึงเป็นเครื่องรางของขลังที่พ่อค้าแม่ขายและผู้ถวิลหาความมั่งคั่งต่างมีไว้บูชา เพื่อนำพาเงินทองโชคลาภความร่ำรวยเข้ามาสู่ตน
นอกจากนี้อาจารย์นิวยังได้เจิม "ผงอิทธิเจ" สูตรพิเศษ เจ้าของตำนานจับไม่ร้องที่หน้าผากของแม่นางกวัก เป็นผงเสน่ห์ที่อาจารย์นิวหวงแหน เพราะประวัติของผงอิทธิเจชุดนี้มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา เรื่องราวมีอยู่ว่า ได้มีหญิงสาวคนหนึ่ง ไปเล่าเรื่องราวที่ตนเองพบเจอจากผู้มีวิชาอาคมคนหนึ่ง ให้พรรคพวกของอาจารย์นิวได้ฟัง ตัวเธอเล่าว่าวันหนึ่งเธอได้ไปหาผู้มีวิชาอาคมคนนั้น ซึ่งพอเข้าไปในสำนัก ผู้มีวิชาอาคมคนนั้นก็ได้ตักน้ำให้ดื่มก่อนเลย บอกว่าเป็นน้ำมนต์ พอตัวเธอดื่มเข้าไปสักพัก ผู้มีวิชาอาคมคนนั้น ก็พูดกับเธอว่า "ขอดูนมหน่อย" ตัวเธอก็เปิดหน้าอกให้ดูโดยที่ไม่ได้มีอาการขัดขืนแต่อย่างใด
สักพักผู้มีวิชาอาคมคนนั้นก็พูดกับเธออีกว่า "ขอจับหน่อยนะ" ตัวเธอก็ยอมให้ผู้มีวิชาอาคมคนนั้นจับหน้าอกเธออยู่พักใหญ่ หลังจากนั้นพอเธอออกมาจากสำนักเพียงไม่นาน ก็เหมือนมีสติฟื้นคืนกลับมา และยังคงสับสนว่าตอนที่เธออยู่ในสำนักของผู้มีวิชาอาคมคนนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมเธอถึงยอมให้ผู้มีวิชาอาคมคนนั้นมาถูกเนื้อต้องตัวเธอได้ขนาดนั้น
พอพรรคพวกของอาจารย์นิวได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็เกิดสนใจในตัวผู้มีวิชาอาคมคนนั้นและสงสัยว่าน้ำมนต์ที่หญิงสาวคนนี้ได้ดื่มกินเข้าไปมีอะไรพิเศษกันแน่ เพราะมีความชื่นชอบในเครื่องรางของขลังมนต์คาถาทางเสน่ห์อยู่แล้ว จึงได้รวบรวมพลพรรคกันไปหาผู้มีวิชาอาคมคนนั้นถึงที่สำนัก และสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งลึกๆทุกคนที่ไปก็อยากรู้ว่าผู้มีวิชาอาคมคนนี้มีของดีอะไรซ่อนอยู่
อาจจะด้วยว่าผู้มีวิชาอาคมคนนั้นเกรงกลัวที่พรรคพวกของอาจารย์นิวจะไปเอาเรื่องเอาราวกับสิ่งที่ได้กระทำมิชอบไป ผู้มีวิชาอาคมคนนั้นจึงได้ยอมบอกว่าจริงๆแล้ว ตัวเขาเองไม่ได้มีวิชาอะไรมากมาย แต่เขามี "ผงอิทธิเจ" อยู่กระปุกนึง เป็นของเก่าตกทอดมาจากครูบาอาจารย์รุ่นก่อนๆ ซึ่งทำไว้ได้อย่างเข้มขลังยิ่งนัก เป็นผงลบกระดานจากคัมภีร์อิทธิเจที่สืบทอดกันมาหลายรุ่น ตัวเขาได้เอาผงอิทธิเจนี้แหละ มาผสมใส่น้ำให้หญิงสาวดื่มกินจนลูบคลำจับตัวสาวถึงขั้นไหน สาวก็ไม่ร้องขัดขืนสักแอะ
พอพรรคพวกของอาจารย์นิวได้ยินดังนั้น จึงขอผงอิทธิเจที่ว่าจากผู้มีวิชาอาคมคนนั้นมา ซึ่งผู้มีวิชาอาคมคนนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ และได้ยอมมอบให้ทั้งกระปุก พร้อมกับบอกว่า "กูเลิกใช้แล้ว กูแก่แล้ว กูให้มึงทั้งกระปุกเลย" พรรคพวกของอาจารย์นิวจึงได้แบ่งผงอิทธิเจนี้มาให้อาจารย์นิวไว้เก็บรักษาส่วนหนึ่ง อาจารย์นิวก็ได้นำผงอิทธิเจนี้มาเป็นมวลสารในการสร้างวัตถุมงคลอยู่หลายรุ่นจนเกิดประสบการณ์มากมายอย่างที่เราๆได้ยินได้ทราบกัน
วิธีการบูชา: ไม่จำเป็นต้องเซ่น เวลาทำบุญให้นึกถึงแม่นางกวักก็พอ
Nang Kwak Na Ram Rai (altar size, Safrol Laurel Wood) by Arjarn New Akuniwong, Samnak Sakyant Pu Lersi Promma, Nonthaburi Province.
"May you be blessed as Nang Kwak received from Sivali
You Will Be Loved By Male, You Will Be Loved By Female, You Will Get A Lot Of Profit,
You Will Be Full Of Money, You Will Be Full Of Treasure, You Will Be Lucky Within 3 Days,
You Will Be A Millionaire Within 3 Months, You Will Be A Baron Within 3 Years. You Will Be Happy & Richness."
For the creation of this version of Nang Kwak Na Ram Rai, Arjarn New has chosen "Safrol Laurel Wood (Theptaro wood)" to carve into the image of Mae Nang Kwak, which “Safrol Laurel Wood (Theptaro wood)” is an auspicious fragrant wood that has been mentioned since ancient times. It is a native tree of the southern region of Thailand. It is believed that where this wood exists, there will be peace and happiness. The special characteristic of Safrol Laurel Wood is that it has a unique sensual fragrance and rich scent that even the gods and angels are fascinated by its smell.
Arjarn New kindly told us about the special characteristic of “Safrol Laurel Wood” that in the past, magic masters would use this wood to be special offerings to the gods and divine things. They would bring this wood to burn in order to cause its fragrance to float away, leading the gods and angels to come down and bestow blessings in the place of ceremony. Interestingly, the word "Theptaro" also has a connotation of the gods and angels gathered around to take in the scent of this type of wood. Therefore, Safrol Laurel Wood has its own magical properties that give benefits to its owner in terms of charm and kindness to attract people and even all the gods and angels as well.
When Safrol Laurel Wood is carved into a Nang Kwak, that Nang Kwak will automatically have natural powers to protect the worshipers and bring peace and happiness to that place. Moreover, that Nang Kwak will help its owners to bring people, appliances and wealth to them continuously.
The important magic subject that Arjarn New used to bless is "Na Ram Rai" of LP.Kee, Wat Hu Chang, which is very suitable magic for creating and blessing Nang Kwak amulets. "Na Ram Rai" has outstanding power in terms of loving-kindness, attracts good fortune, and inspires people's minds to always think of.
Arjarn New has written various magic characters all over Nang Kwak with all the magic of great fortune, great charm, great kindness, great prosperity that he is confident in using and skillful proven by a lot of experience from his disciples succeeding to be the ultimate sacred amulet of wealth, very excellent for beckoning money and treasure. Good for money, wealth, luck and charm. In particular, this amulet can help the worshipper to keep money more effective without leakage. The worshipper can carry this Nang Kwak or place it inside a home and shop for wealthy purpose. Nang Kwak will bring exuberance and plenty of life. If the worshipper takes care of Nang Kwak well, she will bring richness, money, gold and treasure. Very good for business and negotiation. People around will have mercy on the worshipper. The boss will love its owner more than other colleagues and the worshipper will be promoted faster than others. Nang Kwak can also protect the worshipper's accommodation to be safe from thieves.
Refers to the biography of Phra Sivali that was recorded in the Tripitaka when "Nang Supawadee (Nang Kwak)" received blessings from Phra Sivali to become the wealthiest billionaire superwoman of that era. It is said that the amount of her wealth reaches several hundred million, as much as the legendary billionaire "Thananchai", the father of Visakha of Kosol.
Phra Sivali blessed Nang Supawadee to "Be prosperous with wealth through trade, money flows as you wish, too.” After Nang Supawadee was blessed, she was like a magician because no matter where she was, that place would be full of people spending money and transaction, buying and selling would be always around her. Even the merchants in those days had to carry their goods to join the procession of Nang Supavadee and her father's wagons. Because as much as they had the goods, they were sold out, and there were no leftovers on the wagon.
The holiness of the great blessing that Nang Supawadee received from Phra Sivali is hard to parable. Even if it's just the appearance of a representative of Nang Supawadee, which most people call "Nang Kwak", it still receives the magic of blessings like 2,500 years ago. From the past to the present, "Nang Kwak" is still the amulet that merchants and wealth seekers worshiped to bring money, fortune, wealth to them.
In addition, Arjarn New has also anointed the exquisite type of "Itthije Powder" to the forehead of Nang Kwak. It is a charming powder that Arjarn New cherishes because the history of this set of Itthije powder has an unusual story. The story is that there was a beautiful woman who told the story of what she encountered from a magician to Arjarn New's friends. She said that one day she went to see that magician. When she entered that magician's home, that magician gave a cup of water for her to drink first. He said it was holy water. After she drank for a while, that magician said to her, "Let me see your breasts." Suddenly, she opened her breasts for him to see without any resistance at all.
After a while, that magician spoke to her again: "Let me touch your breasts." Suddenly, she allowed that magician to touch her breasts for a long time. When she came out of that magician's home, she said she felt like her consciousness had returned and she was still confused that when she was in that magician's home, what happened to her? Why did she allow that magician to touch her body like that?
When Arjarn New's friends heard the story of what had happened to her, they became interested in that magician and wondered if there was something special about the holy water that this young woman had drunk. Because they already have a passion for charming amulets and charming magic. So they went to find that magician together and inquired about the story that happened to the beautiful woman. Deep down, they also wanted to know what special things this magician had hidden.
It might also be that the magician was afraid that Arjarn New's friends would take action against him for what he had done wrongly. So, that magician told them the true story that, in fact, he doesn't have many magic skills, but he has a jar of "Itthije Powder". It is an old power passed down from previous generations of magic masters which was done very powerfully. It is a real holy chalkboard powder from the Itthije scripture that has been passed down through the generations. He took this Itthije Powder to mix with water for the beautiful woman to drink until she lacked consciousness like that.
When Arjarn New's friends heard this, they asked for Itthije Powder from that magician. The magician did not deny them and agreed to give the whole jar of Itthije Powder to them along with saying "I've stopped using it. I'm old. I'm giving you the whole jar." Then, Arjarn New's friends gave some of this Itthije powder to Arjarn New to keep. Arjarn New has used this Itthije powder as a material for creating his amulets for many batches, resulting in many experiences from his disciples, as we have all heard.
Praying Method: Offering food is not necessary, just share merit with her when you perform meritorious deeds.