เทียนเมตตาหลวง Grand Love Candle
ครูอาจารย์โบราณส่วนมากมักสงวนเคล็ดนี้ไว้เพื่อบอกกล่าวเฉพาะบุคคลไป เพราะอาจจะเข้าข่าย "วิชาทำเสน่ห์" กล่าวคือเทียนชนิดนี้ สามารถใช้จุดเพื่อหวังผลในทาง "ความสัมพันธ์เชิงคู่รัก" ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ตามคำโบราณที่ว่า “ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถา” |
เทียนเมตตาหลวง Grand Love Candle
เทียนเมตตาหลวง, ครูบาฐากูร วัดแม่แพะ, จ.เชียงใหม่
"เทียนเมตตาหลวง" ถือเป็นวิชาเทียนของล้านนาที่ขึ้นชื่อลือชาในด้านเมตตามหานิยม คนฮักหุมยินดีชมชอบมานานนม มีพุทธคุณสมนาม "เมตตาหลวง" อันมีความหมายว่า "ความรักความเมตตาที่ยิ่งใหญ่หามีประมาณไม่" ยันต์เทียนของเทียนชนิดนี้จึงมีขนาดใหญ่และอุดมไปด้วยเลขยันต์อักขระมากมายตามไปด้วย เมื่อนำมาฝั้นทำเป็นเทียนจะมีขนาดถึง 11 นิ้วเลยทีเดียว ผู้ใดได้จุดบูชาย่อมที่รักแห่งมนุษย์ทั้งหลาย ย่อมเป็นที่ชมชอบแห่งอมนุษย์ทั้งปวง ย่อมเป็นที่ยินดีแห่งเทวดาทั้งมวล
ซึ่งความพิเศษของเทียนเมตตาหลวงนี้ยังสามารถนำไปใช้ได้อีกทาง แต่ครูอาจารย์โบราณส่วนมากมักสงวนเคล็ดนี้ไว้เพื่อบอกกล่าวเฉพาะบุคคลไป เพราะอาจจะเข้าข่าย "วิชาทำเสน่ห์" กล่าวคือเทียนชนิดนี้ สามารถใช้จุดเพื่อหวังผลในทาง "ความสัมพันธ์เชิงคู่รัก" ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ตามคำโบราณที่ว่า “ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถา”
ดังนั้นนอกจากเทียนเมตตาหลวงจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการส่งเสริมให้ตนเองได้รับความรักความเมตตาจากบุคคลรอบข้างเป็นพิเศษแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในด้านความรัก เช่นคู่รักคู่ครองที่ชอบทะเลาะกันเริ่มห่างเหินหมางเมินกัน ก็จะช่วยให้กลับมารักใคร่ปรองดองกันดังเดิม ผัวหรือเมียนอกใจไม่ยอมกลับบ้านก็จะช่วยให้กลับมาดังเดิม หรือชายหญิงผู้ใดต้องการได้ใครมาเป็นผัวเป็นเมียก็จะช่วยให้สมตามใจปรารถนา เปลวเทียนจะไปช่วยเร่งเร้าเผาผลาญจิตใจบุคคลผู้นั้นให้เขาร้อนรน จนทนอยู่มิได้ เรียกจิตให้เขามารักมาหลง อยู่ไกลแค่ไหนก็จะมา คิดถึงเราตลอดเวลาอยากเจอหน้าอยากมาหาเราเร็วไว ใช้ได้ผลกันมานักต่อนักแล้วตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย
ขนาด: 11 นิ้ว
วิธีและเคล็ดการจุดเทียนเมตตาหลวง:
1. หากต้องการเสริมทางด้านเมตตามหานิยมให้แก่ตนเอง
= ให้ให้เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของตนเองที่ "ปลายเทียน" ส่วนเวลาที่จุดนั้น จะจุดเวลาไหนก็ได้ ถ้าให้ดีคือจุดช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังขึ้น เป็นฤกษ์ยามแห่งแสงเงินแสงทอง แต่ครูบาฐากูรท่านกำชับมาว่า "ห้ามจุดในช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังตกดิน" คือช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น.
2. หากต้องการใช้ในทางความสัมพันธ์เชิงคู่รัก
= ให้ให้เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของตนเองที่ "ปลายเทียน" และเขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของบุคคลที่เราต้องการให้เขามีความรักใคร่เสน่หาในตัวเราเป็นพิเศษที่ "โคนเทียน" (ปล.หากไม่ทราบชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดของบุคคลผู้นั้น สามารถใช้รูปถ่ายแทนได้) ส่วนเวลาที่จุดนั้น จะจุดเวลาไหนก็ได้ ถ้าให้ดีคือจุดช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังขึ้น เป็นฤกษ์ยามแห่งแสงเงินแสงทอง แต่ครูบาฐากูรท่านกำชับมาว่า "ห้ามจุดในช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังตกดิน" คือช่วงเวลาประมาณ 18.00-19.00 น.
3. หากต้องการให้อานุภาพของเทียนส่งผลสูงสุด
= ช่วงแรกควรจุดเทียนชนิดนี้ให้ครบ 3 เล่ม ภายใน 1 เดือน หลังจากนั้นสามารถจุดได้ตามวาระโอกาสต่างๆตามความเหมาะสม
"ครูบาฐากูร วัดแม่แพะ" ถือเป็นครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งเทียนล้านนาอย่างแท้จริง ท่านได้ยึดถือวิธีการทำเทียนต่างๆตามตำรับปั๊ปสาเก่าที่ท่านได้รับมอบและร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์ของท่านไว้ได้อย่างเคร่งครัด จึงทำให้เทียนของท่านมีประสบการณ์จากผู้บูชามากมาย เฉกเช่นเดียวกับที่รุ่นปู่ย่าตายายได้พบเจอมาและเล่าขานกันไว้
โดยการทำเทียนของท่าน จะเริ่มจากการนำกระดาษสา มาลงด้วยยันต์ชนิดต่างๆ จนสำเร็จเป็น "ยันต์เทียน" ซึ่งยันต์แต่ละชนิดก็จะมีพุทธคุณต่างๆกันไป แล้วแต่ยันต์ที่ท่านเลือกนำมาใช้ หลังจากนั้นครูบาฐากูรจะนำยันต์เทียนมาห่อหุ้ม"เชือกฝ้ายดิบ" เพื่อทำเป็นไส้เทียน แล้วจึงนำ "ขี้ผึ้งแท้" มาฟั่นขึ้นเป็นเทียน ก่อนนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกตามฤกษ์ยามมงคล
ครูบาฐากูรท่านยึดถือการทำเทียนตามขนบจารีตประเพณีโบราณดั้งเดิมเช่นนี้ ลงมือทำด้วยมือท่านเองทีละเล่มทุกขั้นตอน แม้จะมีกรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันและใช้เวลานานกว่าการทำเทียนทั่วๆไป ก็เนื่องด้วยว่าท่านมีเจตจำนงค์ต้องการให้อานุภาพของเทียนส่งผลสูงสุดแก่ผู้ที่นำไปจุดบูชา มุ่งหวังว่าผู้ศรัทธาจะได้รับสิ่งดีๆและประสบการณ์อันน่าประทับใจเฉกเช่นเดียวกับที่ครูอาจารย์รุ่นก่อนๆท่านว่าไว้ทุกประการนั่นเอง
ซึ่งในทางเหนือนั้นจะถือว่าวิชาเทียนเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก จะสังเกตุเห็นได้จากวิถีชิวิตของคนภาคเหนือที่ในวันขึ้นปีใหม่, วันสงกรานต์, วันเข้าพรรษา, วันออกพรรษาและวันมงคลต่างๆ ผู้ที่มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของวิชาเทียน จะบูชาเทียนจากเกจิอาจารย์หรือสย่าผู้มีความรู้ มาจุดเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและคนในครอบครัว เช่นพ่อแม่มักจะบูชาเทียนมาจุดให้ลูกเวลาที่ลูกอยู่ห่างไกลบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลานก็มี ถือว่าเป็นอีกหนี่งวิชาโบราณที่ยังคงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือผู้มีความทุข์ให้ได้มีแสงส่องสว่างนำทางชีวิตต่อไป
Grand Love Candle by Kruba Thakoon, Mae Phae Temple, Chiang Mai Province.
"Grand Love Candle" is considered to be a magic candle of Lanna that is famous from its love power for a long time. It has powerful love power as its name "Grand Love (Metta Luang)" which means "Great love and kindness that is incomparable." Therefore, the candle talisman (Yant Tien) of this type of candle is also grand with countless hand-written magic Yantra. So, its size is quite large, about 11 inches long. Anyone who lights this candle will be loved by all humans, be admired by all non-human beings and be delighted by all the angels.
Interestingly, this "Grand Love Candle" also has a special feature because it can also be used in other ways. But, most ancient masters tend to reserve this special feature for specific people because it is quite similar to "Love Ritual". That is to say, this type of candle can be used to achieve an effective result in the term of "Romantic Relationship", according to the ancient idiom “It's not important to win the game by hook or by crook, just win, that's enough."
Therefore, the Grand Love Candle is not only suitable for those who want to encourage themselves to receive special love and kindness from those around them. But, it is also suitable for those who have problems with love. For example, a couple quarrel with each other and begin to distance themselves from each other. This candle will help them to return to love and harmony as before. An unfaithful husband or wife who refuses to return home, this candle will help them return to the way they were before. For any man or woman who wants to have someone to be their husband or wife, this candle will help them fulfill their desires. The light of this candle will burn the target person's heart and make him/her become restless in love until he/she can't resist. The flame of this candle will call his/her mind to fall in love. No matter how far he/she is, he/she will come to meet and think of the person who lights this candle all the time. He/she will want to see, want to come closer as fast as he/she can do. This candle has been effective since the time of our grandparents until now.
Size: 11 inches.
Methods and tips for lighting Grand Love Candle.
1. If you want to enhance your charm and popularity for yourself.
= First, write your name, surname, and date of birth on the "Tip Of The Candle". As for the suitable time for lighting this candle it could be any time. However, Kruba Thakoon said that the best time for lighting this candle is the time when the sun is rising because it is an auspicious time of the shining light of fortune. Importantly, Kruba Thakoon emphasized that "Do not light the candle during the sunset", which is around 6:00 p.m. - 7:00 p.m.
2. If you want to use it for a romantic relationship.
= First, write your name, surname, and date of birth on the "Tip Of The Candle". Second, write the name, surname, and date of birth of the target person on the "Bottom Of The Candle". As for the suitable time for lighting this candle, it could be any time. However, Kruba Thakoon said that the best time for lighting this candle is the time when the sun is rising because it is an auspicious time of the shining light of fortune. Importantly, Kruba Thakoon emphasized that "Do not light the candle during the sunset", which is around 6:00 p.m. - 7:00 p.m.
3. If you want the power of the candle to have maximum effect.
= you should light this type of candle 3 times in 1 month. After that, it can be lit on various occasions as appropriate.
"Kruba Thakoon, Wat Mae Phae" is another famous master who can truly be called an expert in the magic of Lanna candles. He strictly adhered to the methods of making various magic candles according to the ancient Lanna mulberry paper scriptures that he had received and learned from his teachers. Therefore, his magic candles have been experienced by many worshipers as effectively as what people in the former times encountered and told stories about them.
By making his magic candles, Kruba Thakoon will start by taking mulberry paper to write with various types of yantra until it becomes a "Candle Talisman (Yant Tien)". Each type of candle talisman will have different magic functions depending on the yantra that Kruba Thakoon chooses to use. After that, Kruba Thakoon will roll the candle talisman with "Raw Cotton Rope" to be a candle wick, then "Pure Beeswax" is spun into a candle before blessing according to auspicious times.
Kruba Thakoon adhered to the ancient tradition of making magic candles like this, doing it one by one with his own hands every step of the way. Even though the making process is meticulous and takes longer than making ordinary magic candles, Kruba Thakoon is never tired of doing it because he has the intention of wanting the power of the magic candle to have the greatest effect on the person who brought it to worship. He hopes that believers will receive good things and impressive experiences, the same as magic masters of previous generations had ever said.
In the northern part of Thailand, the magic candle is very important for their beliefs. It can be observed from the way of life of northern people on New Year's Day, Songkran Day, Buddhist Lent Day, end of Buddhist Lent Day and various auspicious days. People who believe in the sacredness of magic candles will worship the magic candles of the skillful master or the knowledgeable monk to light to bring prosperity to themselves and their family members. For example, parents often light magic candles for their children when they are away from home to bring good fortune to their children. It is considered to be another ancient magic that still retains its sacred power to help those who are suffering to have light to guide their lives.