#สีผึ้งพรายเทียนสะท้านโลกันตร์,
สุดยอดสีผึ้งแห่ง2สุดขั้วพลัง “#สีผึ้งพรายเทียน” และ “#สีผึ้งสะท้านโลกันตร์ราชันย์กามะโลกีย์” ทั้งนุ่มนวลอ่อนหวานประนีประนอม ทั้งดุดันรุนแรงไร้ความปราณี ถูกนำมาบรรจุไว้ในตลับเงินอาถรรพ์รูปหัวใจ ประสมโรงรวมเป็นหนึ่ง กลมเกลียวดั่งหยินหยาง ในดำมีขาว ในขาวมีดำ สุริยันคู่จันทราจึงก่อเกิดความสมดุล มีทั้งพระเดชและพระคุณ แสนวิเศษสุดบรรยาย อยู่ที่ผู้บูชาจะอธิษฐานใช้เอา เจ้ากรมสีผึ้งแห่งยุคจัดสร้างไว้ให้โลกยังมี
#ภายในตลับเงินมีของบรรจุด้านในดังนี้:
-สีผึ้งสีขาวคือ "#สีผึ้งพรายเทียน" ทำจากน้ำตาเทียนชนิดพิเศษ ได้จากการที่พระอาจารย์โอจุดเทียนน้อมถวายเป็นอาจาริยบูชาแด่องค์คุรุในสายวิชาของท่าน โดยการจุดเทียนแต่ละครั้ง พระอาจารย์ท่านต้องอาศัยการคำนวนฤกษ์ยามมงคลเฉพาะสำหรับการลงยันต์บังคับ เพื่อฝั้นยันต์เป็นไส้เทียน รวมถึงการคำนวนหาวันเวลาเหมาะสมที่เทียนควรถูกจุด
ในการจุดเทียนบูชาองค์คุรุแต่ละครั้ง ท่านพระอาจารย์จะขอพรต่อองค์คุรุเสมอ ท่านว่าหากอยากรู้ว่าพรที่ขอจะสำเร็จหรือไม่ ให้ดูได้จากปริมาณน้ำตาเทียนที่เหลือ หากเทียนไหม้หมดเล่มแล้วยังมีน้ำตาเทียนหลงเหลืออยู่ให้พอหยิบจับได้ระดับนึง ก็สามารถพยากรณ์ได้ว่า พรที่ขอนั้นได้รับการตอบรับกลับมา หมายถึงเรื่องที่ขอจะสำเร็จ
ซึ่งก็เป็นจริงดังนั้นจากประสบการณ์ตรงของพระอาจารย์โอ ท่านว่าหากจุดเทียนครั้งใดแล้วมีน้ำตาเทียนมากกว่าปกติ สิ่งที่ญอนขอก็สำเร็จทุกครั้งตามตำรากล่าวไว้จริงๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้นโดยปกติแล้ว การจุดเทียนบูชาองค์คุรุแต่ละครั้ง จะไม่เหลือน้ำตาเทียนให้เห็น เพราะเทียนที่ใช้จุด พระอาจารย์โอท่านสีขึ้นจากขี้ผึ้งแท้ด้วยตัวท่านเอง ซึ่งมักจะถูกเผาไหม้จนหมดอยู่แล้ว ดังนั้นการจะเก็บสะสมน้ำตาเทียนที่ว่า เพื่อมาทำสีผึ้งพรายเทียน จึงถือเป็นเรี่องยากและใช้เวลานานมาก
พระอาจารย์จะเก็บน้ำตาเทียนที่เหลือไว้ทุกครั้ง เพราะเป็นเสมือนสื่อกลางชนิดหนึ่งที่ได้รับพลังจากเหล่าคุรุ ประหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประสิทธิ์พรให้ พระอาจารย์ท่านได้สะสมน้ำตาเทียนเหล่านั้นไว้ในผอบอย่างดี ผอบนั้นตั้งอยู่เบื้องหน้าองค์คุรุ ใกล้ๆกับขวดน้ำมันอมรินทร์ถอดรูปในห้องพิธี ซึ่งกว่าพระอาจารย์จะได้น้ำตาเทียนในปริมาณที่เพียงพอจะเอาไปทำสีผึ้งพรายเทียนได้ ก็ต้องสะสมอยู่นานนับปี
และเมื่อท่านได้ปริมาณน้ำตาเทียนที่เพียงพอแล้ว พระอาจารย์โอจึงนำน้ำตาเทียนและน้ำมันอมรินทร์ถอดรูปมาเทลงหม้อกุลา แล้วจึงยกจิตญอนขอองค์คุรุให้ทรงประทานเหล่านางจตุพร พระพี่สาวทั้ง4 ผู้มาพร้อมกับพรวิเศษ4ประการ ลงสถิตในสีผึ้ง
นางจตุพรทั้ง4 มีชื่อและนัยยะความหมายตามตำรา และเกื้อหนุนเราดังนี้:
นางหนึ่งนั้นนามว่า "นางเอื้อยอารี" อัญเชิญเธอมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงคุ้มครองดูแลเรา
นางสองนั้นนามว่า "นางอี่อาราม" (อารามหมายถึงที่อยู่อาศัยเคหะสถาน) อัญเชิญเธอมาช่วยดูแลเคหะสถาน รวมถึงช่วยให้เราได้ที่อยู่ที่กินที่อาศัยด้วย
นางสามนั้นนามว่า "นางงามกาหลง" อัญเชิญเธอมาช่วยดูแลเรา ให้เรามีความสวยความงามต่อผู้พบเห็น ให้เรามีเสน่เมตตา ใครเห็นหน้าปรารถนารักใคร่เอ็นดูชื่นชม นิยมสมสู่กับเรา
นางสี่นั้นนามว่า "นางจงควดี" หรือ นางโภควดีเทวีแห่งโชคลาภ อัญเชิญเธอมาช่วยเหลือให้ประสบโชคลาภวาสนา มีทรัพย์สินเงินทองพร้อมทั้งบริวาร
โบราณจารย์ท่านว่า เมื่อพระพี่สาวทั้ง4ลงมาช่วยแล้วไซร้ ขี้ผึ้งน้ำตาเทียนและน้ำมันจะเข้ากันได้โดยมิต้องตั้งไฟหุง
พระอาจารย์โอท่านได้ขอองค์คุรุให้ทรงประทานเหล่านางจตุพรลงสีผึ้งอยู่นาน ขอพรอยู่นานนับปี จนกระทั่งเกิดนิมิตประหลาด น้ำตาเทียนและน้ำมันจึงเข้ากันเป็นเนื้อเดียว สำเร็จเป็นสีผึ้งพรายเทียน หรือสีผึ้งจตุพร ตำหรับพระอาจารย์โอ
"สีผึ้งพรายเทียน" จะมีญาณพระพี่สาวทั้ง4คอยดูแลรักษา มอบพร ประสะฤทธิ์ และประสิทธิ์ความสุขสมหวังแด่ผู้เป็นเจ้าของ เป็นสีผึ้งที่ไม่มีส่วนผสมของภูติพราย แรงดันวิญญาณ หรือปราณปีศาจ แต่แรงกว่าด้วยพลังแห่งองค์คุรุและเทวะธิดาทั้ง4 พิเศษยิ่งกว่าน้ำมันพราย เสน่หายอดกว่าผงยาแฝด เกินจะบรรยาย อีกหนึ่งวิชาสีผึ้งในตำนานที่ทำได้ยากยิ่ง ขนาดพระอาจารย์ทำมานนานร่วม3ปี สีผึ้งพรายเทียนที่ได้มีปริมาณเท่าผลส้มเท่านั้น ไม่มากพอจะแบ่งใช้ในกลุ่มกว้าง
ท่านจึงเห็นควรสงวนยกไว้ให้เป็นสีผึ้งชุดหวงแหน จะเอามาไว้เสริมในจำเพาะของที่สุดยอดจริงๆเท่านั้น พระอาจารย์มั่นใจที่สุดในคุณวิเศษของสีผึ้งนี้ เพราะทำมายาวนานด้วยวิริยะอย่างยิ่ง
สีผึ้งพรายเทียนสะท้านโลกันตร์ Prai Tien Fusioned Doomsday wax
-สีผึ้งสีดำคือ "#สีผึ้งสะท้านโลกันตร์ราชันย์กามะโลกีย์" คนมีครอบครัวแล้วโปรดจงเลื่อนผ่านไปให้โดยเร็วไว ส่วนคนโสดทั้งหลายจงอ่านพิจารณาให้จงดี เพราะสีผึ้งตลับนี้ร้ายกาจเกินโลกจะยอมให้อภัย อานุภาพรุนแรงกว่าสีผึ้งใดๆเท่าที่เคยมีมา ใครได้ไปจึงขอให้เก็บไว้พกติดตัวก็พอ อย่าได้เปิดออกมาใช้เลย เพราะโลกนี้มันอันตรายและโหดร้ายมากพอแล้ว เป็นสีผึ้งที่พระอาจารย์โอหวงแหนมากที่สุด และแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่พระอาจารย์โอเคยจัดสร้างมา เป็นที่รู้กันดีในหมู่ลูกศิษย์ว่าพระอาจารย์โอจะเก็บสีผึ้งตลับนี้ไว้ในย่ามตลอดไม่ยอมให้ห่างตัว เพราะมันเป็นของอันตรายที่แสนจะร้ายกายหากหลุดรอดไปอยู่ในมือของผู้ด้อยปัญญา และอานุภาพของมันรุนแรงจนพระอาจารย์โอไม่มั่นใจว่าจะมีมนุษย์คนใดสามารถครอบครองได้หรือมีผู้ใดจะคู่ควรด้วยซ้ำไป จึงลองนำออกมาเผยแผ่แบบวัดดวง แต่ถ้าใครคิดว่าตนเองครอบครองหลุมดำแห่งห้วงพลังนี้ไหวก็ขอเรียนเชิญ และขอแนะนำว่าใครคิดจะเป็นเจ้าของ ขอให้รีบนำไปเลี่ยมครอบทั้งตลับ มิจำเป็นมิควรเปิดใช้ เพราะผลลัพธ์นั้นสุดเกินจะคาดเดา
สีผึ้งชุดนี้พระอาจารย์โอได้เมตตาเล่าให้ฟังว่าสมัยครั้งที่ยังออกเดินธุดงค์ท่องยุทธภพอยู่ ท่านได้สูตรลับตำหรับในการทำสีผึ้งที่มีเสน่หานุภาพรุนแรงที่สุดมา จึงตั้งใจออกเดินทางเสาะแสวงหามวลสารต่างๆมาทำอย่างไม่ลดละ แม้ว่ามวลสารและขั้นตอนต่างๆในการทำนั้นยากเย็นแสนเข็ญยิ่งกว่าการทำสีผึ้งใดๆ มีความแปลกประหลาดพิสดารจนเกือบจะอดคิดไม่ได้ว่าสูตรการทำสีผึ้งนี้ช่างคล้ายกับนิยายในตำนานที่ถูกเล่าขานมาจากโลกเวทย์มนตร์
ในที่สุดพระอาจารย์โอได้ทำสีผึ้งจอมวายร้ายนี้สำเร็จจนได้ และเก็บไว้ด้วยความภาคภูมิใจแม้จะรู้ว่ามันเป็นเสมือนขีปนาวุธที่น่ากลัวก็ตาม พระอาจารย์โอเล่าว่าเคยมีอยู่ครั้งหนึ่งได้มีนักข่าวมาขอความช่วยเหลืออยากแต่งเมียสักคน เพราะอายุตนเองก็มากแล้ว ถ้าหากมีรถไฟขบวนสุดท้ายมาจะรีบคว้าไว้โดยไม่รีรอ พระอาจารย์โอได้ฟังก็เกิดเมตตาสงสารจึงยอมงัดสีผึ้งขึ้นมาจากตลับเพียง1หัวไม้ขีด แล้วใส่ไว้ในถุงพลาสติกให้นักข่าวคนนั้นไป เวลาผ่านไปไม่นานนักข่าวคนนั้นก็ได้แต่งเมียสมใจ
พระอาจารย์โอมาทราบภายหลังว่าแท้จริงแล้วนักข่าวคนนี้ก็เป็นลูกศิษย์ของเกจิที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อว่าทำสีผึ้งได้เข้มขลังยิ่งนัก เพราะหลังจากนักข่าวคนนั้นได้เมียไปไม่นาน เกจิท่านนั้นได้ส่งคนมาที่วัดพระอาจารย์โอ เพื่อสอบถามขอซื้อสีผึ้งแบบเดียวกับที่พระอาจารย์โอได้เมตตาให้นักข่าวไป เมื่อพระอาจารย์โอตอบปฏิเสธ ชายคนนั้นก็ไม่ลดละความพยายาม ถึงขนาดบอกว่าขายเท่าไหร่ก็จะขอซื้อ พระอาจารย์โอจึงตัดความรำคาญ เอาสำลีแคะหูป้ายสีผึ้งแล้วจึงทิ้งลงไปในขวดน้ำมันมะกอกที่วางอยู่ข้างตัวให้ชายคนนั้นไป
เวลาผ่านไปประมาณ1เดือน ชายคนนั้นกลับมาที่วัดอีกและเมื่อพบพระอาจารย์โอก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงสอบถามพระอาจารย์โอทันทีว่า "สีผึ้งที่พระอาจารย์เคยให้ผมไป พระอาจารย์มีเท่าไหร่ผมขอเช่าให้หมด" พระอาจารย์จึงตอบกลับไปว่า "คงให้ตามที่เธอขอไม่ได้ สีผึ้งนี้ไม่ได้ถูกตีค่าด้วยราคา เพราะมันคือชีวิตและจิตใจ ที่ฉันหยิบใส่ลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า ความชั่วร้ายอำมหิตมากมายก็ถูกบ่มหมักไว้อยู่ในสีผึ้งนี้" ชายคนนั้นจึงต้องกลับไปพร้อมกับความผิดหวัง
และแล้ววันหนึ่งพระอาจารย์โอได้รับกิจนิมนต์ไปงานพุทธาภิเษกที่มีพระเกจิมากมายหลายรูปมารวมตัวกัน ในขณะที่พระอาจารย์โอนั่งพักอยู่ ได้มีเกจิรูปหนึ่งเดินเข้ามาทักทายพูดคุยอยู่นานและขอแบ่งสีผึ้ง ก่อนสอบถามถึงเส้นทางไปวัดของพระอาจารย์โอ ปรากฏการณ์ครั้งนั้นได้สร้างความตกใจให้กับพระเกจิรูปอื่นๆที่อยู่ในงานเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วเกจิรูปนี้จะมีอุปนิสัยหยิ่งๆ ไม่พูดคุยสุงสิงกับใคร มักจะนั่งกินหมากเงียบๆอยู่รูปเดียว เกจิรักสันโดษรูปนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่เป็นเกจิรูปเดียวกับที่เคยส่งคนมาขอเช่าสีผึ้งกับพระอาจารย์โอที่วัดนั่นเอง
พกพาไว้อธิษฐานตามประสงค์ก็เพียงพอแล้ว แค่หลับตาแล้วสร้างจินตภาพว่าได้นำสีผึ้งนี้ไปป้ายเป้าหมายก็ประดุจว่าบุคคลผู้นั้นโดนสีผึ้งป้ายจริงๆ สีผึ้งนี้เป็นสีผึ้งที่มีชีวิต เป็นอาตมัน มีจิตวิญญาณนึกคิดเป็นของตนเอง
-"#สาริกาคู่" จะได้ไม่ขาดคู่ แกะจากกระดูกอาถรรพ์ แยกปลุกเสกเฉพาะกิจด้วยมนต์สาริกาป้อนเหยื่อ
-"#เพชรพญาธร" เป็นรูปตัวแทนของเพชรพญาธรอีกร่างหนึ่งที่มีฤทธิ์เดชมาก ช่วยเสริมฤทธิ์ให้แก่สีผึ้งพรายเทียนสะท้านโลกันตร์รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี แกะจากกระดูกอาถรรพ์ฟ้าผ่า แยกปลุกเสกเฉพาะกิจด้วยมนต์ปะถะมังโลกา (โลกีย์)
-“#ตะกรุดสาริกาป้อนเหยื่อ (เนื้อเงินอาถรรพ์)” มีพลานุภาพโดดเด่นเรื่องโชคลาภ เงินทอง โภคทรัพย์ และเมตตามหาเสน่ห์อย่างเอกอุPrai Tien Fusioned Doomsday Wax
The ultimate wax of 2 extreme powers, "Prai Tien Wax" and "Doomsday Wax". One is soft, sweet and compromise while, the other one is strong, furious and merciless.Both wax was packaged in the same mystical silver heart case, merged power into one as harmonious as Yin-Yang. In black there is white, in white there is black, the sun and the moon, these things create balance. This "Prai Tien Fusioned Doomsday Wax" have both god and grace inside. It is up to the worshiper to pray and use it. The King Of Wax (Phra Arjarn O) of the era created for the world to still have once.Inside the silver case has item as follows:
-The white one is "Prai Tien Wax" or breathable candle wax, it is made from a special type of candle wax that was obtained from Phra Arjarn O lighting candles as an offering to The Lord Guru teacher in his spiritual field. Before lighting each candle, Phra Arjarn O must calculate specific auspicious times for compulsory spelling to make a talisman into a candle wick including calculating the right day at which the candle should be lit also.
Foe each time of lighting a candle to worship Lord Guru, Phra Arjarn O will always make a wish to The Lord Guru. He said that if he wanted to know whether the wish he had requested would be fulfilled or not, he can see from the amount of candle tears that left from the burning process. If the candle is completely burned and there are still candle tears left, he can predict that his wish was received by The Lord Guru means that his request will be successful.
From the direct experiences of Phra Arjarn O, he said that if a candle was lit and there was a lot of candle tears left. What he begged from his Guru was accomplished every time as described in the scripture.
However, usually each time the candles were lit to worship The Lord Guru, there will be no candle tears left because Phra Arjarn O made the candle from real beeswax by himself which are often burned to the end cleanly. Therefore, to collect the special kind of candle tears for making Prai Tien Wax is difficult and takes a long time.
Phra Arjarn O will collect the remaining candle tears every time because it is like a kind of medium that has been empowered by The Lord Guru, like as a sacred blessing from the holy god. Phra Arjarn has collected those candle tears well in the case that was placed in front of The Lord Guru statue besides "Emerald Mask Indra Oil" in the ceremony room. It is about a year that Phra Arjarn O could accumulate enough candle tears to be used to make "Prai Tien Wax".
When Phra Arjarn O had enough candle tears, he took them and Emerald Mask Indra Oil into the Kula's Partner pot and then meditated at the high level to pray The Lord Guru to summon 4 lady queens of angel who comes with 4 magical blessings settled into Prai Tien Wax.
Those 4 lady queens of angel have names and meanings can support us according to scripture as follows:
The 1st lady queen is called "Nang Euiay Aree", we summon her to help as a guardian to protect us.
The 2nd lady queen is called "Nang E Ararm", we summon her to take care of our homestead as well as helping us get a pleasant place to live & work.
The 3rd lady queen is called "Nang Ngarm Khalong", we summon her to take beautify us to have charming look. She will dress us to be attractive & beloved. Who sees your face will have desirable affection and want to stay beside you.
The 4th lady queen is called "Nang Jong Kawadee" or called Nang Po Ka Wa Tee, we summon her to help us achieve good fortune with complete property, money, and followers.
The ancient teacher said that when the 4 lady queens of angel came down from the higher dimension to remain in Prai Tien Wax, the beeswax and oil will combined together automatically without any heating.
Phra Arjarn O has asked The Lord Guru to give 4 lady queens of angel to remain in Prai Tien Wax for a long time. After many years passed, one day Phra Arjarn O got a strange omen and then candle tears and Emerald Mask Indra Oil in Kula's Partner Pot were merged into one amazingly. Completely finished as Prai Tien Wax or also called 4 Blessings Wax of Phra Arjarn O's recipe.
"Prai Tien Wax" will have the 4 lady queens of angel to take care us, giving blessings,happiness and fulfillment to the owner. It is a magical wax that does not contain any ghost or scary material but, stronger than spiritual wax at all by the power of The Lord Guru and the 4 lady queens of angel. This wax is more special than Nam Mun Prai, more fascinating than love potion. Its ability is beyond description. This is another legendary magic wax that is extremely difficult to do. Phra Arjarn O has been doing this wax for 3 years but, the amount he got is just equal to the weight of an orange so, it is not enough to share in a wide group.
Therefore, Phra Arjarn O preserved this wax as a cherished item. He will use it to be the special additional tool for the really great amulet specifically. Phra Arjarn O has most confident in the wonderful abilities of this wax from the his great persistence to do it.
-The black one is “Doomsday Wax”, this wax is the special wax that Phra Arjarn Ovalue highly and its power is the most powerful than the others wax since Phra Arjarn O had made. It is well-known among Phra Arjarn O’s disciples that this wax always be kept in Phra Arjarn O’s yellow bag because it will be the dangerous thing for the doltish personif that person use it in wrong way. Moreover, its power is too powerful until even Phra Arjarn O doesn’t sure who can use or suitable to own this wax. Therefore, Phra Arjarn O released it out for the courage person who think that they can own the black hole of power. He also suggested that who take this wax should cover it with casing better than use it to touch someone because the result is beyond expectation.
The story of this legendary wax is that during Phra Arjarn Omade pilgrimage and seeking for the great magic subjects, he got the recipe to make the most powerful wax so, he decided to find the materials one by one even some materials are very difficult to get and some methods are very complex to do beyond others wax at all. All materials and methods to make this wax is very weird and strange until Phra Arjarn O could not help thinking that this wax like as the legend from the fairy tales.
Finally, Phra Arjarn O made this Doomsday Wax completely and keep with himself all the time even he know that this wax is like as a mighty weapon.
-"Lover Couple Of Salika Bird", the prayer will not lack of lover couple. They were carved from mystical bone, Phra Arjarn O separately blessed them with the mantra of Salika Poen Yuea.
-"Petphayatorn", it is the representative of Petphayatorn in the special form that has great power. It will boost the power of "Prai Tien Fusioned Doomsday Wax" to be higher nicely. It was carved from mystical thundered bone, Phra Arjarn O separately blessed it with the mantra of Pattamung Lokar (Origin Of Lust).
-“Salika Poen Yuea Takrud” (Mystical Silver Material). This subject is very good for luck, money, wealth and super charm.